" " " "

ข่าวมวย

เสี่ยโบ๊ท รับไหว้ขอขมาจาก ฟ้าวันใหม่ กลางรายการ โหนกระแส

ล่าสุด ฟ้าวันใหม่ ได้ออกมายอมรับว่าล้มมวยจริงในศึกมวยไทยรายการ “มวยมันส์วันศุกร์” ที่จ.บุรีรัมย์ ซึ่งแพ้น็อกในยกที่ 4 ให้กับ หลานย่าโม ว.วัฒนะ ซึ่งหลังจากนั้น ฟ้าวันใหม่ ที่มี “โบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ เป็นผู้จัด และมีการเข้าแจ้งความเตรียมดำเนินคดีกับผู้จ้างวาน ที่ สภ.เขาบางแกรก จ.อุทัยธานี และเข้าชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นที่สำนักงานมวย การกีฬาแห่งประเทศไทยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา (13 ต.ค.) รายการโหนกระแสที่มี “หนุ่ม” กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกร ได้เชิญ “โบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ ผู้จัดการแข่งขันมวยรายการนี้ รวมถึง “ฟ้าวันใหม่ ช.ไทยเศรษฐ์” มาพูดความจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น ประเด็นสำคัญมีดังนี้

โดย เสี่ยโบ๊ท ออกเล่าว่า เจอกับฟ้าวันใหม่เมื่อปีที่แล้ว ที่สนามมวย วันนั้นเหมือนว่าเขามาเดิมพันมวย และเขาเกือบที่จะโดนรุมกระทืบเพราะไปชิ่งเงินเซียนมวยในสนามไว้ แต่ก็ได้ช่วยปลุกปั้นเพราะทราบว่า ฟ้าวันใหม่ หรือ “ต่อ” เป็นมวยมีฝีมือ จึงตัดสินใจที่จะสนับสนุนและปลุกปั้นกระทั่งมาทราบความเคลื่อนไหวว่า ฟ้าวันใหม่ ช.ไทยเศรษฐ์ เตรียมที่จะล้มมวย ได้โทรไปหาทีมงานที่จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อขอให้หยุดซะ แต่ว่าไม่ทัน เพราะทางฟ้าวันใหม่ ได้โดนน็อกไปก่อน จากนั้นก็ได้เค้นความจริงจากทางฟ้าวันใหม่ ในตอนแรกเจ้าตัวปฏิเสธ แต่ได้สืบทราบความจริงจากเส้นทางบัญชี และพบอีกว่า ฟ้าวันใหม่ ได้มีการลงเดิมพันให้ตัวเองแพ้ด้วยเป็นจำนวนเงิน 1 หมื่นบาท

โดย ต่อ หรือ ฟ้าวันใหม่ เผยว่า คนที่ว่าจ้างล้มมวยในครั้งนี้ ทำทีว่ามาติดต่อซื้อน้ำพริกที่ทำขายถึง 2 ครั้ง และในครั้งที่ 2 ก็แจ้งว่าจะมารับของเอง เมื่อมาถึงก็บอกให้ขึ้นมาเอาเงินบนรถ ก่อนจะบอกว่าการชกกับ หลานย่าโม ว.วัฒนะ สู้ไม่ได้หรอก เดี๋ยวจ้าง 5 แสนบาท ให้ล้มมวย ถ้าไม่เอาไม่เป็นไร แต่ห้ามบอกใคร ถ้าบอกใครจะมากระทืบตอนแรกนั้น ฟ้าวันใหม่ ยอมรับว่ากลัวคำขู่และอยากได้เงินไปทำฟาร์มไก่ จึงรับข้อเสนอ โดยผู้ว่าจ้างโอนเงินให้ก่อน 3 หมื่นบาท ส่วนที่เหลือรับหลังจากขึ้นชก ยอมรับว่า ในชีวิตของตัวเอง เคยล้มมวยมาแล้ว 3 ครั้ง ในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4

เสี่ยโบ๊ท กล่าวว่า คนว่าจ้างเป็นเจ้าของค่ายมวยเกียรติพานทอง มีประวัติในส่วนร่วมการล้มมวยอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ ผู้ก่อเหตุได้หนีไปไม่สามารถติดต่อได้ ทางเดียวที่จะจบเรื่องนี้ก็คือ ทางผู้ว่าจ้างจะต้องได้รับโทษด้วยการจำคุกเท่านั้น ไม่มีการยอมความเด็ดขาดขณะเดียวกัน ฟ้าวันใหม่ ได้นำเอาพานขันธ์ 5 เพื่อมาขอขมา “โบ๊ท” ณัฐเดช ก่อนที่โปรโมเตอร์จะกล่าวว่า ยินดีรับพานขันธ์ 5 ไว้ แต่เรื่องของคดี ต้องเป็นไปตามหลักฐานและกระบวนการ ไม่มีการยอมความ จะติดคุกก็ต้องติดคุก เพื่อเป็นบทเรียน

ฟ้าวันใหม่ พูดกับเสี่ยโบ๊ตก่อนปิดรายการขอโอกาส ไม่อยากติดคุก และขอกลับไปใช้ชีวิต ซึ่งทาง เสี่ยโบ๊ท กล่าวว่า เรื่องนี้ตนเองไม่มีอำนาจ ขึ้นอยู่กับกระบวนการของศาล ถ้าฟ้าวันใหม่ให้ความร่วมมือในการดำเนินการล่าตัวผู้กระทำผิด ก็อาจจะไม่ต้องติดคุกก็ได้ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตั้งแต่มีพระราชบัญญัติมวยไทย เมื่อปี 2542 ยังไม่เคยจับกุมตัวผู้กระทำความผิดจากกรณีล้มมวยได้เลย ส่วนมากก็มักจบลงที่การยอมความหรือเกรงกลัวอำนาจอิทธิพล อยากให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่าง และยืนยันว่า ไม่มีการยอมความเด็ดขาดพรบ. ฉบับนี้ บัญญัติบทลงโทษผู้กระทำผิดว่า ต้องถูกปรับเป็นเงิน 1 แสนบาท หรือ จำคุก 5 ปี หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : ข่าวมวย